ซุนเจาเหลียง ประธานบริษัทเกินกู่ฮั่นป่วยหนัก ด้วยความร้อนใจจึงประกาศตามหาลูกซึ่งพลัดพรากจากกันเป็นเวลานานหลายปี มีคนจำนวนมากมาสมอ้างว่าเป็นลูกของซุนเจาเหลียง หลังจากที่ตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ซุนเจาเหลียงเชื่อว่าหยีมู่ถีเป็นลูกสาวของตน พ่อลูกพบหน้ากันเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น ซุนเจาเหลียงผู้เป็นพ่อก็เสียชีวิต เมื่อซุนเจาเหลียงเสียชีวิตทุกคนต่างก็พากันแย่งชิงทรัพย์สมบัติกัน หยีมู่ถีซึ่งเดิมทีเป็นทายาทเพียงคนเดียวที่จะได้รับมรดกจากซุนเจาเหลียงนั้น ท้ายที่สุดกลับได้รับเพียงแหวนหยกเพียงวงเดียวจากซุนเจาเหลียงเท่านั้น

         แคช ชายหนุ่มรูปงามเดินเข้ามาในลานจอดรถ การปรากฏตัวของแคชเป็นที่ดึงดูดความสนใจและเป็นเป้าสายตาของหญิงสาว ราวกับเป็นการตอบรับการรอคอยของหญิงสาว แคชโปรยยิ้มเดินเข้าไปหาหญิงสาว จากนั้นก็พูดเบาๆ ว่า "ขอทางด้วยครับ" ในเวลานี้หญิงสาวถึงรู้ตัวว่าเธอยืนเกะกะขวางทาง หญิงสาวเบี่ยงตัวพอที่แคชจะเดินไปได้ ทำให้ร่างกายคนทั้งสองสัมผัสกันโดยไม่ได้ตั้งใจ การสัมผัสกันในครั้งนี้ราวกับประจุไฟฟ้าที่วิ่งเข้าหากัน ทันใดนั้นเอง แคชก็หยิบกุญแจดอกหนึ่งออกมาเปิดประตูรถ หญิงสาวตะลึงในความสามารถของแคชเป็นอันมาก ต่อมาหญิงสาวก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าเธอกำลังรอคอยชายคนหนึ่ง แต่เมื่อเห็นคนอื่นยุ่งวุ่นวายกับรถของเธอก็ทำให้เธอร้องตะโกนออกมาด้วยความตกใจ แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว แคชได้เหยียบคันเร่งขับรถออกไปเสียแล้ว หญิงสาวซึ่งเคลิบเคลิ้มในความหล่อของแคชนั้น ในเวลานี้เองถึงฉุกคิดได้ว่าแคชเป็นนักต้มตุ๋น (รถถูกหลอกไป ไม่ได้ถูกขโมยไป)

         คอฟฟี่ชอปแห่งหนึ่ง ชายสูงวัยคนหนึ่งกำลังหว่านล้อมข้าราชการจำนวนหนึ่งซึ่งเกษียณอายุราชการให้ร่วมลงทุนในธุรกิจคาสิโน ชายสูงวัยหยิบหลักฐานออกมายืนยันว่าเหอหงเศรษฐี มาเก๊าเป็นเจ้าของโครงการนี้ ใบหน้าของทุกคนอิ่มเอิบเต็มไปด้วยรอยยิ้มราวกับเห็นเงินจำนวนมากไหลออกมาจากสลอตแมชชีน แต่อีกด้านหนึ่งนั้น เงินจำนวนมากก็หลั่งไหลเข้ามาในบัญชีเงินฝากของชายสูงวัย

         แคชขับรถสปอร์ตสีสวยสดใสด้วยความภาคภูมิใจ แคชปิดระบบติดตามผ่านดาวเทียมเพื่อป้องกันไม่ให้ตำรวจติดตามจับกุม ต่อมาแคชก็ได้รับข้อความจากพ่อให้ไปพบกันตามสถานที่นัดหมาย ทันใดนั้น หยีมู่ถีก็กระโจนลงมาสู่ถนน เมื่อแคชเห็นเช่นนั้นก็หยุดรถด้วยความตกใจ ส่วนหยีมู่ถีนั้นก็เกลือกกลิ้งไปตามถนน เมื่อแคชลงจากรถ หยีมู่ถีก็โบกมือเรียกรถแท็กซี่ จากนั้นเธอก็กระโจนขึ้นรถมุ่งหน้าออกไป หยีมู่ถีโผล่หน้าออกมาทางหน้าต่าง โบกไม้โบกมือยิ้มให้แคชซึ่งยืนอยู่บนท้องถนน แคชหวนนึกถึงรอยยิ้มแสนหวานของหยีมู่ถี ในเวลานี้แคชยินดีนำรถสปอร์ตแลกกับรถแท็กซี่ที่หยีมู่ถีนั่ง

         แคชเดินทางไปถึงที่ทำงานพ่อ แคชรู้สึกเบื่อหน่ายกับการคุยโวโอ้อวดของพ่อที่พูดถึงข้าราชการเกษียณอายุ แต่เนื่องจากพ่อเป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาการต้มตุ๋นให้ ทำให้แคชไม่ฟังก็ไม่ได้ แท้ที่จริงแล้วแคชเป็นเด็กกำพร้า นับตั้งแต่ติดตามพ่อ แคชก็ได้เรียนรู้การหลอกลวงต้มตุ๋นจนกลายเป็นเครื่องมือในการทำมาหากิน แคชกระเซ้าพ่อให้ใช้ฝีมือมากกว่านี้ เมื่อพ่อได้ยินเช่นนั้นก็ตอบโต้แคชกลับไปว่าทุกคนยินยอมพร้อมใจที่จะลงทุนในโครงการนี้ เพียงแต่พวกเราโชคดีที่รู้ว่าโครงการนี้จะต้องเลิกล้มไปก็เท่านั้นเอง ท่าทีของพ่อแสดงถึงความเชื่อมั่นว่าสามารถหาเงินจำนวนมากจากโครงการการก่อสร้างคาสิโน แต่แผนการต่อไปจะต้องให้แคชช่วยออกหน้าโดยให้แคชอ้างว่าเป็นตัวแทนนักธุรกิจฮ่องกงเพื่อทำสัญญากับเหยื่อต่อไป

         ในขณะที่แคชและพ่อกำลังปรึกษาหารือแผนการกันนั่นเอง ฉีฉีในชุดบิกินีพร้อมด้วยกระดานโต้คลื่นก็ตะโกนร้องเรียกคนทั้งสอง ฉีฉีบอกคนทั้งสองว่าเธอเดินทางกลับมาจากมัลดีฟแล้ว ฉีฉีเป็นศิษย์น้องของแคช ครั้งแรกที่ฉีฉีถูกแคชหลอกนั้นก็ด้วยหลงใหลในความหล่อของแคชนั่นเอง นับแต่นั้นเป็นต้นมาฉีฉีก็รบเร้าขอศึกษาวิชาต้มตุ๋นจากแคช ในเวลานั้นแคชซึ่งฉงนท์จับต้นชนปลายไม่ถูกนั้นได้ตัดสินใจพาฉีฉีกลับบ้าน แคชบอกฉีฉีว่าหลอกคนง่าย รู้ใจคนเป็นเรื่องยาก ความหมายที่แท้จริงก็คือถ้าหากจะหลอกลวงต้มตุ๋นใครก็ตามจะต้องรู้ถึงจิตใจคนที่เราจะหลอกให้ดี

         แคชนำรถสปอร์ตไปขาย เมื่อแคชได้เงินมาแล้วก็พาฉีฉีไปที่ถนนหนึ่งศูนย์หนึ่ง ด้านหนึ่งนั้นพาเธอไปชอบปิ้ง อีกด้านหนึ่งหาเหยื่อที่ตนจะหลอกลวงต้มตุ๋น ขณะที่เหยื่อกำลังจะหลงกลติดกับนั่นเองก็มีเสียงเปียโนอันแสนหวานแว่วมาจากห้องอาหารแห่งหนึ่ง เมื่อแคชหันหลังกลับไปดู นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงที่นั่งดีดเปียโนนั้นก็คือหยีมู่ถีนั่นเอง ทันใดนั้นเองเสียงเปียโนก็หยุดลง เมื่อแคชปรี่เข้าหาหยีมู่ถี หยีมู่ถีก็หนีเข้ากลีบเมฆไปเสียแล้วสร้างความผิดหวังให้แคชยิ่งนัก

         ทีน่า เจ้าของร้านอาหารบรรจงทำซูชิอาหารโปรดให้พ่อ พ่อยิ้มพร้อมทั้งมอบเงินค่านายหน้าให้ทีน่า ที่แท้ทีน่าจัดหาเหยื่อมาให้พ่อนั่นเอง เนื่องจากทีน่ารู้จักคนมากมาย ด้วยเหตุนี้พ่อจึงต้องพึ่งพาอาศัยทีน่า และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือพ่อตามจีบทีน่ามาครึ่งค่อนชีวิตแล้ว ทีน่าเป็นคนเดียวที่พ่อไม่เคยหลอกลวงต้มตุ๋น

         ข้าราชการเกษียณอายุจำนวนมากพากันมายังสถานที่นัดหมาย แคชก็ยังไม่ปรากฏตัวเสียที เนื่องจากข้าราชการเกษียณอายุเหล่านี้ไม่ได้ด้อยประสบการณ์ ทำให้หลายคนรู้สึกไม่ชอบมาพากลขึ้นมา ก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายไปกว่านี้ แคชก็ปรากฏตัวขึ้น เมื่อสถานการณ์คลี่คลายก็ทำให้พ่อได้รับเงินก้อนที่สองไปอย่างราบรื่น แต่ถึงกระนั้นก็ตามพ่อก็สังเกตเห็นท่าทางที่แปลกประหลาดของแคช ทำให้พ่อรู้สึกไม่ชอบมาพากลขึ้นมา

         รุ่งขึ้นแคชไปที่ถนนหนึ่งศูนย์หนึ่งอีกครั้ง หลังจากที่แคชหลอกลวงต้มตุ๋นหญิงสาวสองคนแล้ว ในที่สุดแคชก็ได้พบกับหยีมู่ถีตามที่ได้ตั้งใจไว้ วันนี้หยีมู่ถีหลั่งน้ำตาออกมาขณะที่กำลังดีดเปียโน ด้วยท่าทางที่น่าสงสารของหยีมู่ถี ทำให้แคชเกิดความหวั่นไหวขึ้นมา หลังจากที่เพลงบรรเลงจบ แคชซึ่งไม่สามารถสะกดอารมณ์ไว้ได้ก็เดินเข้าไปหาหยีมู่ถี หยีมู่ถีเห็นเช่นนั้นก็รีบปีนขึ้นไปบนดาดฟ้าอาคารหนึ่งศูนย์หนึ่ง หยีมู่ถีซึ่งยืนอยู่บนดาดฟ้านั้นได้ทำท่าราวกับนกซึ่งกำลังจะถลาเล่นลม เมื่อแคชเห็นเช่นนั้นก็ตกใจมากจึงกระโจนเข้าใส่หยีมู่ถีเพื่อช่วยชีวิตเธอไว้

         หยีมู่ถีเล่าความจริงให้แคชฟังว่าไม่ง่ายเลยกว่าที่เธอจะได้พบกับพ่อ แต่พ่อลูกพบหน้ากันได้เพียงเดือนเดียวเท่านั้น พ่อก็ต้องจากโลกนี้ไป การจากไปของพ่อสร้างความเศร้าโศกเสียใจให้หยีมู่ถีเป็นอันมาก สิ่งที่เธอทำได้ในเวลานี้คือสอนเปียโนและรับจ้างเล่นเปียโนเพื่อยังชีพ ชีวิตอันแสนรันทดของหยีมู่ถีทำให้แคชหวนนึกถึงชีวิตเด็กกำพร้าของตนขึ้นมา นับเป็นครั้งแรกที่แคชอยากอ้าแขนปกป้องคุ้มครองหยีมู่ถีหญิงสาวซึ่งไร้ที่พึ่งพิง

         การปลอบใจของแคช ทำให้หยีมู่ถีคลายความเศร้าที่คิดถึงพ่อไปได้บ้าง หยีมู่ถีเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องกลับบ้าน เธอจึงรีบร้อนจากไป.... หลังจากที่หยีมู่ถีจากไปแล้ว แคชก็นึกขึ้นได้ว่าตนลืมสอบถามชื่อหยีมู่ถี นับแต่นั้นเป็นต้นมา ทุกบ่ายแคชก็จะปรากฏตัวในห้องอาหารหนึ่งศูนย์หนึ่งเพื่อฟังเสียงเปียโนจากหยีมู่ถี

         หลังจากที่แคชได้คบหากับหยีมู่ถีแล้ว หยีมู่ถีก็กลายเป็นความหวังสำหรับแคช แคชซึ่งไม่มีการศึกษาแต่อย่างใดนั้นถูกสะกดด้วยเสียงเปียโนและถ้อยคำอันแสนหวานของหยีมู่ถีไปเสียแล้ว สำหรับแคชแล้ว ขอเพียงโยเกิร์ตเท่านั้นก็สามารถทำให้หยีมู่ถีมีรอยยิ้มที่สวยสดงดงามที่สุดในโลก แคชรู้สึกว่าหยีมู่ถีเป็นเทพธิดาที่สวรรค์ประทานให้ตน เมื่อเป็นเช่นนี้แคชก็ตัดสินใจที่กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี ยืนหยัดด้วยลำแข้งตนเอง ปกป้องคุ้มครองหยีมู่ถีตลอดไป

         ขึ้นชื่อว่าเป็นจิ้งจอกก็ต้องเจ้าเล่ห์ พ่อพบว่าแคชมีพิรุธ ดังนั้นจึงสะกดรอยตามแคชไปที่ถนนหนึ่งศูนย์หนึ่ง พ่อตกใจมากเมื่อพบเห็นหยีมู่ถี เนื่องจากหยีมู่ถีเป็นลูกสาวซุนเจาเหลียงประธานบริษัทเกินกู่ฮั่นมหาเศรษฐีอันหนึ่งของไต้หวัน เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก พ่อนำความไปบอกแคช นึกไม่ถึงว่าแคชกลับไม่เชื่อจึงไปสอบถามเพื่อยืนยันความจริงจากหยีมู่ถี

         หยีมู่ถีน้ำตานองหน้า หยีมู่ถีไม่ได้ปฏิเสธถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพ่อแต่อย่างใด แคชเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าเหตุใดเธอร่ำรวยเช่นนี้จึงไม่ใช้ชีวิตให้มีความสุข ในทางกลับกันกลับเล่นเปียโนเลี้ยงชีพที่ถนนหนึ่งศูนย์หนึ่ง ความจริงแล้วหลังจากที่พ่อเสียชีวิตไป หยีมู่ถีไม่ได้รับทรัพย์สมบัติเลยแม้แต่แดงเดียว ที่สำคัญยังถูกติงอี้ชิงแม่รองใช้งานราวกับทาสอีกด้วย เมื่อแคชรู้เช่นนั้นก็ตัดสินใจที่จะเป็นเจ้าชายช่วยเหลือซินเดอเรล่า

         แคชปรึกษาหารือกับพ่อ ทั้งสองตัดสินใจให้ความช่วยเหลือหยีมู่ถีชิงทรัพย์สมบัติกลับคืนมา อีกด้านหนึ่งนั้น หยีมู่ถีซึ่งจะได้รับความช่วยเหลือจากแคชและพ่อนั้นได้เดินทางไปที่ร้านเหล้าเพื่อพบกับทีน่า ที่แท้ หยีมู่ถีเป็นลูกสาวของทีน่า สิ่งที่หยีมู่ถีทำลงไปนั้น ทีน่าไม่ได้รู้เห็นแม้แต่น้อย หยีมู่ถีโกหกทีน่าว่าเป้าหมายของเธอคือต้องการทรัพย์สินของซุนเจาเหลียง แต่ความจริงแล้วทีน่าหารู้ไม่ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของหยีมู่ถีคือการได้ใกล้ชิดกับพ่อบังเกิดเกล้า(พ่อของแคช)นั่นเอง

         พ่อให้แคชสมอ้างเป็นเพื่อนเก่าซุนเจาเหลียง แคชปรากฏตัวต่อหน้าติงอี้ชิงในนามเพื่อนเก่าของซุนเจาเหลียง แคชบอกติงอี้ชิงว่าตนเดินทางกลับมาจากอังกฤษเพื่อเยี่ยมเยียนเพื่อนเก่า นึกไม่ถึงว่าเพื่อนกลับจากโลกนี้ไปเสียแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ตนไม่รู้จะทำอย่างไรดี ธุรกิจต่างๆ ที่ลงทุนด้วยกันจะจัดสรรอย่างไร ติงอี้ชิงตกใจมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอไม่คิดมาก่อนว่าซุนเจาเหลียงยังมีธุรกิจอื่นอีกด้วย ถึงแม้ว่าติงอี้ชิงไม่ได้สนใจทรัพย์สินจำนวนนี้สักเท่าใดนักก็ตาม แต่เมื่อเธอรู้ว่าเพื่อนเก่าของซุนเจาเหลียงกำลังตามหาหยีมู่ถีก็ทำให้เธอเกิดความไม่สบายใจขึ้นมา

         ติงอี้ชิงต้องการรู้ความจริง ดังนั้นจึงส่งคนเดินทางไปอังกฤษเพื่อสืบหาความจริง หลังจากที่ติงอี้ชิงรู้ความจริงแล้วก็วางแผนการรับมือ ติงอี้ชิงไม่มีวันให้หยีมู่ถีเป็นทายาทสืบทอดมรดกของซุนเจาเหลียงเป็นอันขาด การชิงไหวชิงพริบในครั้งนี้นั้น ติงอี้ชิงหารู้ไม่ว่าพ่อและแคชเป็นเพียงนักต้มตุ๋นเท่านั้น

         หยีมู่ถีซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากพ่อและแคชนั้น เดิมทีหยีมู่ถีก็ปฏิเสธไม่รับความช่วยเหลือ สำหรับเธอแล้ว ขอเพียงได้อยู่ใกล้ชิดกับพ่อก็พอใจแล้ว หยีมู่ถีหารู้ไม่ว่าพฤติกรรมของเธอนั้นทำให้แคชเข้าใจผิด ฉีฉีซึ่งแอบรักแคชมานานเกิดความรู้สึกหึงหวงเมื่อเห็นหยีมู่ถีเข้ามาในชีวิตของแคช ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเธอไม่มีทางให้หยีมู่ถีได้ครอบครองแคชเป็นอันขาด

         เพื่อผลประโยชน์แล้ว พ่อมอบหมายให้ฉีฉีไปล่อติงอี้ชิง หลายต่อหลายภารกิจที่ฉีฉีไปทำด้วยความไม่เต็มใจ ต่อมา ฉีฉีพบความจริงว่าติงอี้ชิงมีเป้าหมายอื่น ขณะที่ฉีฉีกำลังจะเปิดเผยความจริงให้ทุกคนรู้นั่นเอง เธอก็เห็นแคชและหยีมู่ถีหยอกล้อกันอย่าง มีความสุข ด้วยความหึงหวงจึงทำให้ฉีฉีตัดสินใจไม่เปิดเผยความจริงให้ทุกคนรู้ เรื่องนี้เองเกือบทำให้ติงอี้ชิงรู้ฐานะที่แท้จริงของพ่อ

         ด้วยเรื่องนี้เองทำให้พ่อทำความตกลงกับแคชและฉีฉีว่าก่อนที่ภารกิจจะเสร็จสิ้น ห้ามทั้งสองใช้อารมณ์ทำให้เสียการใหญ่เป็นอันขาด เมื่อฉีฉีได้ยินเช่นนั้นก็ประกาศถอนตัว ที่เป็นเช่นนี้นั้นเธอเชื่อว่าแคชเพียงคนเดียวก็สามารถทำให้ภารกิจลุล่วงไปได้ แม้ว่านักต้มตุ๋นมีรักไม่ได้ ในเวลานี้หยีมู่ถีสนิทสนมกับพ่อและแคชเป็นพิเศษ หยีมู่ถีรู้สึกว่าคนเหล่านี้แตกต่างจากคนทั่วไป จากหลักการที่ว่าเป็นโจรก็ต้องมีคุณธรรม หลักการนี้ทำให้หยีมู่ถีเริ่มสงสัยตนเองขึ้นมาว่าเธอจะหลอกลวงพ่อและชายคนรักได้อย่างไร

         อีกด้านหนึ่งนั้น ติงอี้ชิงมีโอกาสพบกับพ่อและแคชบ่อยขึ้น ทำให้ติงอี้ชิงเกิดความสงสัยในพฤติกรรมของคนทั้งสองขึ้นมา ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากพ่อมักพูดเสมอว่าจะมอบทรัพย์สินทั้งหมดของซุนเจาเหลียงให้หยีมูถี จนกระทั่งวันนี้แล้วก็ยังไม่เห็นแม้แต่สตางค์แดงเดียว เมื่อเป็นเช่นนี้ติงอี้ชิงจึงตัดสินใจเดินทางไปอังกฤษด้วยตนเอง ในที่สุดติงอี้ชิงก็พบความจริงว่า....

         แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในเวลานี้นั้น เดิมทีแคชซึ่งคิดจะเรียกความเป็นธรรมให้หยีมู่ถีหญิงคนรัก ได้รู้ความลับบางอย่างเข้า ความลับที่ว่านั้นเมื่อใดจะถูกเปิดเผยออกมาและเมื่อความลับถูกเปิดเผยออกมาแล้วผลจะเป็นอย่างไร และเมื่อแคชรู้ความจริงว่า ที่แล้วมาตนเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งของหยีมู่ถีเท่านั้น แคชจะทำใจยอมรับหยีมู่ถีได้หรือไม่ ที่สำคัญแคชและหยีมู่ถีจะสมหวังในความรักหรือไม่ ความจริงแล้วทั้งสองต่างตระหนักดีว่าตราบใดยังไม่ถึงวาระสุดท้าย ไม่อาจพูดได้ว่าใครเหนือชั้นกว่ากัน ถึงอย่างไรก็ตามศิลปะการหลอกลวงต้มตุ๋นก็ยังคงพ่ายแพ้ให้แก่พลังความรัก....

         ติดตามชั้นเชิงการหักเหลี่ยมของผู้คนในแวดวงนักต้มตุ๋นแล้วคุณจะไม่ประมาทกับคำว่า "เหนือฟ้ายังมีฟ้า" ในภาพยนตร์จีนเรื่อง "18 มงกุฏมือพระกาฬ" นำแสดงโดย กัวผิ่นเชา – เสี่ยวพานพาน – ถังอี่เฟย – หงฉีเต๋อ – กวานหยิ่ง – หงจินเป่า และ สงไท่หลิง ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 02.00 – 04.00 น. ทางช่อง 3